"ฮันบก" มาจากคำสองคำ คือ
"ฮัน" หมายถึง คนเกาหลี และ
"บก" หมายถึง เครื่องแต่งกาย
เมื่อรวมกันจึงแปลได้ว่า เครื่องแต่งกาย / ชุดของคนเกาหลี (stou27.fix.gs/index.php?topic=1204.0)
รูป 1 ชุดฮันบกสำหรับเจ้าสาวในพิธีสมรส (makeup-artist-kant.bloggang.com)
ฮันบกเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติเกาหลีมาเป็นเวลาพัน ๆ ปีมาแล้ว ความงาม และความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมเกาหลีจะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางภาพถ่ายของสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายฮันบก
ก่อนที่วัฒนธรรมการแต่งกายแบบตะวันตกจะได้เข้ามาในเกาหลีเมื่อร้อยปีมาแล้วนั้น หญิงชาวเกาหลีจะสวมชุดฮันบกเป็นปกติทุกวัน ส่วนสุภาพบุรุษจะสวมชอโกรี (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และพาจิ (กางเกงขายาว) ในขณะที่สุภาพสตรีสวมชอกอรีและชีมา (กระโปรง) ในปัจจุบันชุดประจำชาติฮันบก จะใช้สวมเฉพาะในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส วันซอลลัล (วันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ) หรือวันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า) ฮันบก ของผู้หญิงประกอบด้วย กระโปรงพันรอบตัว เรียกว่า “ชิมา” และเสื้อ
“ชอกอรี” ซึ่งคล้ายเสื้อแจ็คเก็ตฮันบกของผู้ชายประกอบด้วยชอกอริเช่นกัน แต่สั้นกว่าของผู้หญิง และมีกางเกงเรียกว่า “บาจิ” ทั้งชุดของผู้หญิง และผู้ชายสวมคลุมทับด้วยเสื้อคลุมยาวเรียกว่า “ตุรุมากิ”
(th.wikipedia.org/wiki/)
รูป 2 ชุดฮันบกสำหรับงานศพ (www.yukata1689.webiz.co.th)
ฮันบก เป็นชุดประจำชาติเกาหลีฏ้จริง แต่ในปัจจุบันไม่นิยมใส่ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังพอมีเห็นกันบ้างตามชนบท จะเห็นคุณย่าคุณยาย หรือผู้หญิงฐานะดีใส่กัน ปัจจุบันนี้ชาว เกาหลี นิยมสวมชุดแต่งกายประจำชาติ ในงานเทศกาล หรือในงานพิธีต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีศพ เป็นต้น
ชุดฮันบก มีความคล้ายคลึงกับชุดไทยของเรา ในเรื่องของการมีวิวัฒนาการมาโดยตลอดตามยุคสมัย จนกระทั่งในสมัยปัจจุบัน ก็มีชุดฮันบก ประยุกต์จากที่ได้เห็นกัน ในละครหรือหนังพีเรียดของเกาหลีหลายๆ เรื่อง หากติดตามละครประวัติศาสตร์ของเกาหลี ก็จะเห็นวิวัฒนาการของชุดฮันบกจากภาพยนตร์หลายๆ เรื่องในเกาหลี ซึ่งมีความหลากหลายไปตาม ศักดินา และชนชั้น ของผู้สวมใส่ ทุกยุคทุกสมัย
รูป 3 ชุดฮันบกกษัตริย์ (tlslrkal.egloos.com)
รูป 4 ชุดฮันบกขุนนาง (stou27.fix.gs)
ชุดฮันบกมองดูหนา และมีหลายชั้น ไม่ใช่เพราะอากาศหนาวอย่างเดียว เป็นเพราะชาวเกาหลีเอง
มีทัศนะคติคล้ายๆ จีนที่ว่า ผู้หญิงไม่ควรเปิดเผยผิวให้คนอื่นเห็นมากเกินจำเป็น ชุดฮันบก ก็เลยมีประมาณ 4-5 ชั้น สีสันของชุด ถ้าเป็นชุดของเด็กๆ สีสันจะยิ่งสดใส ทั้งที่ชุดฮันบกของผู้ใหญ่ก็สีสันสดใสอยู่แล้ว
รูป 5 ชุดฮันบกสำหรับผู้ใหญ่ (shineeglitter.blogspot.com)
ชุดฮันบกมีเสื้อกับกระโปรงบางๆ ใส่เป็นซับในชั้นแรกก่อน มีสุ่มไก่เพื่อให้กระโปรงท่อนล่างบานขึ้นมา ใส่เสื้อบางๆ ทับอีกชั้น แล้วถึงจะใส่เสื้อ และกระโปรงสีสันสดในอย่างที่เห็นกัน (ถ้าจะออกนอกบ้าน ต้องสวมเสื้อนอกอีกตัวหนึ่งทับไว้ด้วย) ผ้าที่นำมาใช้ตัดชุดฮันบกมีอยู่มากมายหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผ้าป่าน ผ้าฝ้ายมัสลิน ผ้าไหม ผ้าแพร โดยผู้สวมใส่จะเลือกใส่ชุดที่ตัดจากผ้าชนิดใดขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ โดยชุดฮันบกที่ใช้สำหรับแต่งกายในฤดูหนาวมักใช้ผ้าที่ทอจากฝ้าย
การสวมชุดฮันบก จะให้สมบูรณ์จริงๆ ต้องมีการเกล้าผมขึ้น แล้วก็ต้องมีปิ่นปักผม และใส่ถุงเท้า และรองเท้าให้เข้าคู่กันด้วย ความสวยงามพิถีพิถันจะเป็นไปตามศักดินาของผู้สวมใส่
ก่อนที่วัฒนธรรมการแต่งกายแบบตะวันตกจะได้เข้ามาในเกาหลีเมื่อร้อยปีมาแล้วนั้น สตรีชาวเกาหลีจะสวมชุดฮันบกเป็นปกติทุกวัน แต่ในปัจจุบันชุดฮันบก จะใช้สวมในโอกาสพิเศษต่างๆ งานมงคลสมรส วันซอลลัล ( วันขึ้นปีใหม่ ตามจันทรคติ) หรือวันซูซก (วันขอบคุณพระเจ้า)
(www.sukishigroup.com/)
ฮันบกในยุคแรกๆ นั้น ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน เนื่องจากเกาหลีมีอาณาเขตที่ติดกับดินแดนของจีน ต่อมาในสมัยโชซอน เริ่มมีการติดต่อกับเปอร์เซียและญี่ปุ่นมากขึ้น จึงทำให้ชุด "ฮันบก" มีลวดลายมากขึ้น รวมถึงเริ่มมีเครื่องประดับที่บ่งบอกสถานะและตำแหน่งขึ้นด้วย โดยทั่วไป ชาวบ้านสามัญ จะสวม "ฮันบก" สีธรรมชาติ ส่วนผู้มีฐานะจะสวม "ฮันบก" ที่มีสีสัน แต่จะไม่ซ้ำกับสีที่ใช้ในวังหลวง
สีผ้าที่ถูกเลือกมาใช้ตัดชุดฮันบกส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว ซึ่งสื่อถึงความสะอาด ความบริสุทธิ์ แต่หากต้องการได้ชุดที่ดูหรูขึ้นมาอีกนิดสำหรับสวมใส่ไปงานสำคัญ ๆ ก็จะใช้ผ้าสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีดำมาประกอบ การแต่งกายด้วยชุดฮันบกไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องเป็นสีใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้สวมใส่เป็นหลัก
รูป 6 ชุดฮันบกสีขาว (twssg.blogspot.com)
หญิงสาวเกาหลีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่จะมีชุดฮันบกเป็นของตนเองสำหรับใช้ใส่ในวันสำคัญต่าง ๆ โดยเราจะสังเกตได้ว่า ชุดฮันบกของหญิงสาวจะถูกออกแบบมาให้เป็นกระโปรงพองยาว และเสื้อตัวสั้น ทั้งนี้ก็เพื่อพรางรูปร่าง และปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้สวมใส่ไม่ให้เป็นที่ดึงดูดสายตาของเพศตรงข้าม
(stou27.fix.gs/index.php?topic=1204.0)
ที่มา :
http://th.wikipedia.org/wiki/
http://www.sukishigroup.com/
http://stou27.fix.gs/index.php?topic=1204.0
http://makeup-artist-kant.bloggang.com
http://www.yukata1689.webiz.co.th
http://tlslrkal.egloos.com
http://stou27.fix.gs
http://shineeglitter.blogspot.com
http://twssg.blogspot.com